ในช่วงที่ผ่านมา Ransomware ที่มีชื่อว่า Petya และ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ WannaCry ได้ระบาดไปในหลายประเทศทั่วโลก สร้างความเสียหายตั้งแต่ ระดับผู้ใช้ ภาคธุรกิจ ตลอดจนถึง องค์กรใหญ่ๆ ความร้ายกาจของเจ้ามัลแวร์ตัวนี้คือ มันจะอาศัยช่องโหว่ของระบบป้องกัน เพื่อเข้าควบคุมเครื่องของเหยื่อ หลังจากนั้นจะทำการล็อครหัส หากต้องการใช้งาน ต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับรหัสปลดล็อค วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือต้องอัพเดทระบบอยู่สม่ำเสมอ เปิดการใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัส และ ไม่ใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์
ในส่วนของผู้พัฒนาระบบวินโดวส์ อย่าง Microsoft ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ประกาศว่า ในการอัพเดทช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ จะเพิ่มระดับการป้องกัน ATP (Advanced Threat Protection) ให้สูงขึ้น พร้อมทั้งใช้ "AI กำจัดไวรัส (AI Anti-virus)" ซึ่งเจ้าตัวนี้ มีการทำงานร่วมกับระบบเก็บข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต (Cloud-based) และหนึ่งในความสามารถใหม่ คือ เมื่อตรวจพบมัลแวร์บนคอมพิวเตอร์ ระบบจะทำการดักจับ และเริ่มสร้างฐานข้อมูลของมัลแวร์ตัวใหม่ จากนั้นก็กระจายข้อมูลออกไป เพื่ออัพเดทการป้องกันของเครื่องอื่น
ความสามารถใหม่ของ ATP ตัวนี้ คาดว่าจะปล่อยให้อัพเดทกันในช่วงเดือน กันยายน ถึง ตุลาคม โดยเน้นให้ความสำคัญไปยังไปยังกลุ่มบริษัท และกลุ่มผู้ใช้ระดับองค์กรก่อน ในส่วนของกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปทาง Microsoft มีแผนว่าจะปล่อยออกมาให้ได้ใช้เช่นกัน
ในท้ายที่สุด เราก็จำเป็นต้องพึ่งความฉลาดของ AI เพื่อมาดูแลระบบป้องกัน โดยที่หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่า มันคืออะไร สร้างมาเพื่ออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง? คำตอบคือ โปรแกรม AI (Artificial intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ นั้นคือ สมองกลที่ถูกสร้างขึ้นมาให้สามารถ วิเคราะห์ข้อมูลและเก็บบันทึก แล้วทำการค้นหาทางเลือกที่ดีที่สุด ส่วนมากจะเห็นใช้งานร่วมกับหุ่นยนต์
ที่มา : www.engadget.com